SEOการตลาดเครื่องมือค้นหาเว็บไซต์ & เสิร์จ

4 ปัญหา SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ ยอดฮิตที่คุณต้องแก้ไขด่วน!

4-ปัญหา-SEO-เว็บไซต์-อีคอมเมิร์ซ-ยอดฮิตที่คุณต้องแก้ไขด่วน!-web

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ แต่การปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ประเภทนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เช่นกัน เพราะด้วยจำนวนหน้าในร้านค้าออนไลน์ที่สามารถขยายไปเป็นหน้าผลิตภัณฑ์ได้ถึงหลายร้อยหลายพันหน้าอย่างง่ายดาย รวมถึงอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ก่อตัวเกิดเป็นความผิดพลาดในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไม่รู้ตัว จนส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับหน้าเว็บของคุณบน Google แบบเต็ม ๆ

ไม่ว่าคุณจะ เพิ่งเริ่มต้น หรือ ดูเเลจัดการเว็บไซต์เป็นปกติอยู่แล้วก็ตาม คุณจำเป็นต้องทราบถึงข้อผิดพลาดด้าน SEO ที่เกิดขึ้น และ ดำเนินการหาทางแก้ไขในทันที ซึ่งถ้าหากตอนนี้คุณกำลังมองหาเคล็ดลับในการแก้ไขปัญหา SEO บนเว็บธุรกิจค้าขายออนไลน์ของคุณอยู่ เราก็ขอนำเสนอ 4 ปัญหา SEO ยอดฮิตที่พบบ่อยที่สุด 4 ข้อ และ วิธีแก้ไขมัน จะมีอะไรยังไงบ้างไปดูกันเลย!

4 ปัญหา SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ ที่พบบ่อย และ วิธีแก้ไข

1. ก๊อป วาง คำอธิบายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตโดยไม่แก้ไขอะไรเลย

นี่คือข้อผิดพลาดด้าน SEO ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดบนเว็บไซต์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากร้านค้าออนไลน์มักจะมีสินค้าอยู่มากมาย ผู้จัดทำจึงมักจะข้ามขั้นตอนยุ่งยากในการเขียนคำอธิบายด้วยตัวเอง ไปใช้คำอธิบายผลิตภัณฑ์แบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่ได้มาจากผู้ผลิตแทน

หารู้ไม่ว่า คำอธิบายเหล่านี้ก็ถูกแจกจ่ายไปยังร้านค้าออนไลน์แห่งอื่น ๆ ด้วย ซึ่งการใช้คำอธิบายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตโดยตรงบนเว็บไซต์ของคุณ ก็หมายความว่าคุณกำลังสร้างเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันกับเว็บไซต์คู่แข่งทั้งหลายแหล่อยู่นั่นเอง

พูดง่าย ๆ คือคุณไม่ได้จัดทำเนื้อหาใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำใครออกมาให้ระบบคำนวณจัดอันดับการแสดงผลบนหน้าการค้นหาเลย ทำให้ระบบของ Google ทำการย้ายเนื้อหาที่ดันไปซ้ำกันกับคู่แข่งของคุณ ไปแสดงผลอยู่ในอันดับต่ำ ๆ จนเว็บไซต์ของคุณแทบจะไม่มีโอกาสปรากฏให้ใครเห็นเลย ดังนั้น การพบเห็น และ เข้าชมหน้าเว็บไซต์คุณ ของลูกค้าจึงลดลงตามไปด้วย

วิธีแก้ปัญหานั้นง่ายมาก: เพียงคุณสร้างคำอธิบายขึ้นมาใหม่เอง โดยคำนึงถึง เกี่ยวข้องกับสินค้า และ ความเป็นประโยชน์กับลูกค้าของคุณที่สุด ก็พอ

แต่แน่นอนว่าการสร้างเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใครสำหรับผลิตภัณฑ์จำนวนหลายพันรายการอาจเป็นงานที่ น่าเบื่อมาก และ ใช้เวลานาน จนกลายเป็นบ่อเกิดของข้อผิดพลาดดังกล่าวนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหากคุณต้องการคนมาเขียนคำอธิบายสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายแทน โปรดติดต่อเรา เพื่อให้เราได้เข้ามาช่วยเหลือคุณเลย

2. ใช้ Title Tag ซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง

เมื่อคุณขายสินค้าหลายรายการจากแบรนด์เดียวกัน หรือ สินค้าที่คล้ายกันจากแบรนด์ต่าง ๆ การจะตั้งชื่อ Title Tag ให้ไม่ซ้ำกันคงยาก เพราะต้องมาวนเวียนกับการใช้ คีย์เวิร์ดเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกแทน

หากมีหน้าที่ชื่อ Title Tag ซ้ำกันหลายหน้า มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเครื่องมือค้นหาที่จะจัดอันดับหน้าที่ “ดีที่สุด” สำหรับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ออกมาได้ ส่งผลเสียให้ระบบตัดสินใจไม่นำหน้าเว็บไซต์ที่มี Title Tag ซ้ำซ้อนกันเหล่านี้มาจัดอันดับแสดงผลเลยแม้แต่หน้าเดียว

หากต้องการทราบว่าหน้าเว็บของคุณมี Title Tag ที่ซ้ำกันหรือไม่ เราพบว่าการใช้เครื่องมือปรับแต่ง SEO ที่ชื่อว่า SEMRush มาช่วยตรวจสอบนั้นอำนวยความสะดวกกับเราได้เป็นอย่างมาก เพราะ SEMRush จะทำการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าเว็บทั้งหมดของคุณมาสรุปแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้คุณสามารถ ระบุหน้าที่มีปัญหา และ เปลี่ยน Title Tag หน้าที่ซ้ำกันได้อย่างง่ายดาย

หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการตรวจสอบ SEO ของเว็บไซต์คุณ โปรดติดต่อเรา เลย

3. ไม่เพิ่มประสิทธิภาพหน้าผลิตภัณฑ์ด้วยคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูง

บางทีปัญหาที่พบบ่อยที่สุดอีกประการหนึ่งคือ หน้าผลิตภัณฑ์บนเว็บอีคอมเมิร์ซจำนวนมากไม่ได้รับสร้างขึ้นโดยคำนึงถึง คีย์เวิร์ด เป็นหลัก มีธุรกิจไม่น้อยเลยที่ใช้เวลาไปมากมายกับการค้นหา คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของตน จนลืมให้ความสำคัญกับ คีย์เวิร์ดที่กลุ่มลูกค้านิยมใช้ เกิดเป็นสถานการณ์ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเพราะลูกค้าไม่ได้เข้ามาจากทางคีย์เวิร์ดเหล่านั้น

ถ้าไม่ใช่สินค้าที่ต้องเจาะจงจริง ๆ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะไม่ค้นหาจาก ชื่อยี่ห้อ หรือ รุ่นสินค้า ดังนั้นคุณควรพิจารณาหาข้อความที่กลุ่มผู้บริโภคนิยมใช้การค้นหา ผ่านเครื่องมือสำหรับช่วยเลือกคีย์เวิร์ด เช่น Google Adwords เพื่อระบุ คำ, วลี, หรือ ประโยค ที่มีการเข้าชมโดยผู้ใช้งานสูง

จากนั้นก็เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมมาสัก 3-5 คำ จากทั้งหมด เพื่อใช้บนหน้าเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดได้ที่บทความนี้เลย: คู่มือ SEO สำหรับ Shopify ทำให้ร้านค้าของคุณติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ด

4. ไม่ได้ปรับแต่ง URLs ของคุณ

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายแห่งไม่ให้ความสำคัญกับ URL ของหน้าเท่าไหร่นัก เมื่อพวกเขาอัปโหลดผลิตภัณฑ์ใหม่ พวกเขาจะใช้ URL ของหน้าผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติทันที ทำให้ URL ของหน้านั้นเกิดเป็น ตัวเลข และ ตัวอักษรแบบสุ่ม ดังเช่นรูปภาพนี้:

4-ปัญหา-SEO-เว็บไซต์-อีคอมเมิร์ซ-ยอดฮิตที่คุณต้องแก้ไขด่วน-01

นี่คือตัวอย่างของ URL ที่ไม่ถูกต้อง เครื่องมือค้นหาอย่าง Google ไม่มีทางเข้าใจว่าหน้าเว็บไซต์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร อีกทั้งยังไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นใด ๆ ให้ผู้ค้นหาคลิกลิงก์เข้ามาดูเว็บไซต์คุณด้วย

URL ที่เป็นมิตรกับ SEO นั้นจะสั้น ๆ แต่มีความหมายครบถ้วนเหมือนตัวอย่างด้านล่างนี้:

4 ปัญหา SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ ยอดฮิตที่คุณต้องแก้ไขด่วน! 02

มีหลายวิธีในการสร้าง URL ที่เป็นมิตรกับ SEO คุณสามารถเรียนรู้วิธีเพิ่มคีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ URL ของหน้าได้ ที่นี่

อ่านเพิ่มเติม:

เริ่มต้นแก้ไขปัญหา SEO เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ เพื่อติดอันดับหน้าแรกบน Google

การดำเนินการแก้ไขปัญหา SEO เป็นพื้นฐานสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ดี การนำเคล็ดลับ SEO ไปปรับใช้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณมากเพียงใด

ตอนนี้คุณกำลังมองหาเอเจนซี่ที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณอยู่ใช่รึเปล่า? ติดต่อเราวันนี้เลย เพื่อนัดหมายปรึกษาพูดคุยกัน!

ติดต่อเรา

 


IH Digital คือ ดิจิทัลเอเจนซี่ ที่มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน สามารถสร้าง ความเรียบง่าย และ ยืดหยุ่น ให้กับความต้องการด้าน การตลาด ของลูกค้าทั่วเอเชีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล มากกว่า 80 คนในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น พร้อมให้บริการ วางแผน, ให้คำปรึกษา, ออกแบบ, ดูแลโซเชียลมีเดีย, ซื้อสื่อโฆษณา, พัฒนาเว็บไซต์, และ SEM & SEO